จากเหตุการณ์นายภานุมาศ สุทธินันท์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ เข้าไปหา น.ส.สิรินรัตน์ บูรณะสุบรรณ์ เพื่อนสาว เรียนห้องเดียวกันที่บ้านพัก เพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจ แต่กลับก่อเหตุยิงนายสิทธิพร บูรณะสุบรรณ์ ลุงของ น.ส.สิรินรัตน์ เสียชีวิตก่อนจะยิงนางเสาวนีย์ ผู้เป็นยาย บาดเจ็บสาหัส แล้วยิงตัวตายนั้น

เมื่อเช้าวันที่ 10 มิ.ย. นางสิริกร มณีรินทร์ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะทำงาน ได้ไปยังโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญและได้กล่าวให้โอวาท แก่นักเรียนกว่า 5,000 คน ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้โทษว่าใครเป็นคนผิด แต่อยากให้ทุกคน ทั้งเพื่อนและครูคอยให้กำลังใจ น.ส.สิรินรัตน์ ซึ่งขณะนี้สภาพจิตใจแย่มาก ขณะเดียวกันต้องขอร้องสื่อมวลชนขอให้มาโรงเรียนวันนี้เป็นวันสุดท้าย ไม่อยากให้มาขุดคุ้ยเรื่องนี้อีก เพราะ น.ส.สิรินรัตน์ต้องมีชีวิตอยู่ในสังคมต่อไป

"เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นอุทาหรณ์สอนใจและเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต การจะทำอะไรลูกๆจะต้องคิดให้รอบคอบ มีสติ รู้จักยับยั้งชั่งใจ ที่สำคัญคือการควบคุมอารมณ์ จะต้องทำให้ได้ เพราะเป็นสิ่งสำคัญ ความรักของหนุ่มสาวไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม และที่สำคัญอยากให้ทุกคนหยุดการจองเวรซึ่งกันและกัน และหันมาใช้ชีวิตที่ถูกต้องต่อไป" รมช.ศึกษาธิการกล่าว

หลังจากนั้น นางสิริกรให้สัมภาษณ์ว่า คนที่น่าสงสารมากที่สุดก็คือ น.ส.สิรินรัตน์ จึงขอร้องทุกคนว่า ในวันที่ น.ส.สิรินรัตน์กลับมาเรียนหนังสือทุกคนจะต้องไม่ถามเรื่องนี้อีก เพราะแค่นี้สภาพจิตใจก็แย่มากแล้ว ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้เคารพ ในสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่นด้วย ไม่ใช่พยายามขุดคุ้ยเรื่องความรุนแรงว่าใครผิดใครถูก จนทำให้คนที่อยู่ต้องแย่ไปอีก ขณะนี้ได้มีหมอจากกรมสุขภาพจิตได้เข้ามาช่วยดูแล สภาพจิตใจของนักเรียนในโรงเรียนนี้แล้ว

ส่วนนายวิทธยา บริบูรณ์ทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือสภาพจิตใจของ น.ส.สิรินรัตน์ ซึ่งจะต้องมีการดูแลเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงเยาวชนกลัวจะเกิดการลอกเลียนแบบพฤติกรรม ดังนั้น นอกจากอาจารย์จะดูแลลูกศิษย์แล้ว ผู้ปกครองก็ควรดูแลลูกหลานของตัวเองอย่างใกล้ชิดด้วย